โปรดเถิดรัก

ถ้าเป็นอย่างนั้น ขอได้ไหม ...




รู้ดีว่ามันก็จบไปนานแล้ว
แต่ใจยังคงคิดถึง ใจยังคงต้องการ
รู้ดีว่ามันต้องใช้เวลา
แต่ใจยังคำนึงถึงใจยังคงต้องการ


นานเท่าไร แต่ดูเหมือนว่ามันยังไกล
และดูเหมือนเวลาไม่เคยทำมันให้จาง

บอกหน่อยเถิดรัก บอกว่าเป็นเช่นไร
ฉันไม่เคยรู้ว่าทำไม ฉันไม่เคยเข้าใจอะไร
ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ
หากเป็นอย่างนั้นขอได้ไหม ให้ฉันไม่รักใครอีกเลย


ครั้งหนึ่งฉันเองก็เคยออกตามหา แต่ว่ามันก็ต้องผิดหวัง
เมื่อปลายทางของฉันนั้นว่างเปล่า
รู้ดีว่าเธอคงไม่ย้อนมา แต่ฉันยอมทุกอย่าง
ยอมทำทุกทางให้เธอย้อนคืนมา

นานเท่าไร แต่ดูเหมือนว่ามันยังไกล
และดูเหมือนเวลาไม่เคยทำมันให้จาง

บอกหน่อยเถิดรัก บอกว่าเป็นเช่นไร
ฉันไม่เคยรู้ว่าทำไม ฉันไม่เคยเข้าใจอะไร
ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ
หากเป็นอย่างนั้นขอได้ไหม บอกมาว่ารักคืออะไร
บอกมาได้ไหมเป็นยังไง บอกมาได้ไหม...

นานเท่าไร นานแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่ามันยังไกล
และดูเหมือนเวลาไม่เคยทำมันให้จาง

บอกหน่อยเถิดรัก บอกว่าเป็นเช่นไร
ฉันไม่เคยรู้ว่าทำไม ฉันไม่เคยเข้าใจอะไร
ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ
หากเป็นอย่างนั้นขอได้ไหม ให้ฉันไม่รักใคร

(ฉันเองที่ยังไม่เข้าใจ ฉันเองที่ยังตามหา
เป็นฉันเองที่เสียน้ำตา)

บอกหน่อยเถิดรัก บอกว่าเป็นเช่นไร
ฉันไม่เคยรู้ว่าทำไม ฉันไม่เคยเข้าใจอะไร
ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ
หากเป็นอย่างนั้นขอได้ไหม ให้ฉันไม่รัก
ฉันยอมทุกอย่างแค่ฉันไม่ต้องรักใคร

เธอ




อยู่ไกลจนสุดสายตา ไม่อาจเห็นว่าเราใกล้กัน
และทุกครั้งหัวใจฉันยังคงไหวหวั่นกับความท­รงจำ

นึกถึงครั้งแรกเราพบกัน เธอและฉันไม่เคยต้องไกล
ในวันนี้ฉันต้องเผชิญความไหวสั่นอยู่ภายใน­ใจ
กลัวการที่เราไกลกัน กลัวว่าใจจะเปลี่ยนฝันไป

ฝนพรำเปรียบเหมือนครั้งฉันพบเธอ แววตาของเธอยังคงติดตรึงในใจไม่ลืม
รักเรายังไม่เก่าลงใช่ไหม หรือกาลเวลาหมุนไ­ป เปลี่ยนใจเธอเป็นอีกดวง

เธอ เธอยังคิดถึงฉันไหม เมื่อสองเรานั้นยังคงห่างไกล
เมื่อเวลาพาเราให้ไกลกัน รู้บ้างไหมคนไกลยังคงหวั่นไหว
เมื่อเขามองดูภาพเธอทีไร น้ำตามันยังไหลออกมา

หยาดน้ำค้างในยามเช้า กับลมหนาวจับใจ
สายลมโชยอ่อน พัดพาความรักฉันไป ส่งถึงใจเธอที

เธอ เธอยังคิดถึงฉันไหม เมื่อสองเรานั้นยังคงห่างไกล
เมื่อเวลาพาเราให้ไกลกัน รู้บ้างไหมคนไกลยังคงหวั่นไหว
เมื่อเขามองดูภาพเธอทีไร น้ำตามันยังไหลออกมา

กาลเวลาอาจทำให้ใจคนเราเปลี่ยนผันในวันต้อ­งไกล
แต่ฉันยังคงมีแต่เธออยู่ในหัวใจเสมอ

อยู่ไกลจนสุดสายตา ไม่อาจเห็นว่าเราใกล้กัน
และทุกครั้งหัวใจฉันยังคงไหวหวั่นกับความท­รงจำ

นึกถึงครั้งแรกเราพบกัน เธอและฉันไม่เคยต้องไกล
ในวันนี้ฉันต้องเผชิญความไหวสั่นอยู่ภายใน­ใจ
กลัวการที่เราไกลกัน กลัวว่าใจจะเปลี่ยนฝันไป

ฝนพรำเปรียบเหมือนครั้งฉันพบเธอ แววตาของเธอยังคงติดตรึงในใจไม่ลืม
รักเรายังไม่เก่าลงใช่ไหม หรือกาลเวลาหมุนไ­ป เปลี่ยนใจเธอเป็นอีกดวง

เธอ เธอยังคิดถึงฉันไหม เมื่อสองเรานั้นยังคงห่างไกล
เมื่อเวลาพาเราให้ไกลกัน รู้บ้างไหมคนไกลยังคงหวั่นไหว
เมื่อเขามองดูภาพเธอทีไร น้ำตามันยังไหลออกมา

เธอ เธอยังคิดถึงฉันไหม เมื่อสองเรานั้นยังคงห่างไกล
เมื่อเวลาพาเราให้ไกลกัน รู้บ้างไหมคนไกลยังคงหวั่นไหว
เมื่อเขามองดูภาพเธอทีไร น้ำตามันยังไหลออกมา


การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก

เคยอ่านฉบับภาษาอังกฤษเมื่อนานมาแล้ว สมัยที่ภาษายังไม่แข็งแรง และอ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เมื่อเร็วๆนี้ได้กลับเชียงใหม่ ได้มีโอกาสเจอกับเพื่อนสมัยมัธยมต้นคนหนึ่งหลังจากไม่เจอกันมากว่า 5 ปี เพื่อนคนนี้เอาหนังสือเล่มหนึ่งให้ยืม ชื่อเรื่องน่าสนใจว่า 'การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก' เป็นหนังสือแปลโดยคุณโตมร สุขปรีชา เมื่อเอามาดูดีๆจึงพบว่ามันคือ South of the Border, West of the Sun อันเลื่องลือของ ฮารูกิ มูราคามิ ที่เราเคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว แน่นอนว่าเมื่อเป็นผลงานของมูราคามิ โทนที่ออกมาจึงหม่นและดาร์กมากมาย

'การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก' เล่าเรื่องราวชีวิตของฮาจิเมะ การพบพานเพื่อจากจรของเขา ความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวแต่ละตนที่เข้ามา ฮาจิเมะนั้นฝังใจอยู่กับรักแรก ชิมาโมโตะ เมื่ออายุได้ 12 ปี แต่ชีวิตมันคือความเป็นไป แน่นอนว่าทั้งคู่ต้องพรากจากกันไปตามกระแสของเวลา ฮาจิเมะไปคบกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งในวัยมัธยมปลาย เธอชื่ออิซูมิ สำหรับเรา นี่เป็นความสัมพันธ์ที่เจ็บปวดที่สุด



'เธอจะไม่ทำร้ายฉันใช่ไหม'
'ผมจะไม่ทำร้ายเธอ'
...
แต่ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจ ว่าผมสามารถทำร้ายใครคนหนึ่งได้เลวร้าย กระทั่งเธอไม่อาจฟื้นคืนมาได้อีกเลย และยังไม่เข้าใจว่า ใครคนหนึ่ง แค่เพียงมีชีวิตอยู่ ก็สามารถทำลายมนุษย์อีกคนได้ยับเยินจนไม่อาจซ่อมแซม (หน้า30)




เราไม่อาจรู้ได้จริงๆว่าเราจะสามารถทำร้ายคนๆหนึ่งได้รุนแรงขนาดไหน และในฐานะคนที่ถูกทำลายจนย่อยยับ ก็ไม่อาจบอกได้เช่นกันว่าชีวิตจะฟื้นคืนกลับมาเป็นเช่นเดิมได้หรือไม่ แน่นอนว่าความสัมพันธ์ไม่อาจฆ่าคนๆหนึ่งได้ในทางกาย แต่หากเป็นทางใจเล่า ส่วนหนึ่งอาจจะตายลงไปอย่างสมบูรณ์ภายใต้น้ำมือของคนอีกคนที่เรารักเท่าชีวิต 

เวลาผ่านไป ฮาจิเมะแต่งงานและประสบความสำเร็จทั้งด้านชีวิตการงานและชีวิตครอบครัวกับยูกิโกะ ทว่าคืนหนึ่งในฤดูฝน ชิมาโมโตะ หญิงสาวที่ฮาจิเมะคิดว่าคงไม่อาจได้ครอบครองและจากกันไปชั่วชีวิตได้กลับมาอีกครั้ง อย่างที่น่าจะคาดเดากันได้ ทั้งคู่ได้มีความสัมพันธ์กัน

'การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก' ทรงพลังในแง่ของการเล่าเรื่องด้วยปริศนาที่ไม่มีข้อเฉลย เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของฮาจิเมะในแต่ละช่วงวัยที่ผันผ่าน ทว่าสำหรับชิมาโมโตะและอิซูมิแล้ว เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวทั้งสอง และอะไรทำให้เธอทั้งคู่กลายเป็นคนในปัจจุบัน เวลามากกว่า 10 ปีที่หายไปในชีวิตของหญิงสาวทั้งสองจะยังคงเป็นปริศนาต่อไป หรือแท้จริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง ทว่าเป็นเพียงจินตนาการที่ก่อร่างในหัวของฮาจิเมะเท่านั้น

หญิงสาวของฮาจิเมะมักจะมากับฝน ทั้งชิมาโมโตะและยูกิโกะ 'การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก' ก็มาถึงมือเราพร้อมกับฝนเช่นกัน เพื่อนมัธยมต้นของเราคนนั้นยื่นหนังสือให้เราพร้อมกับห่าฝนที่สาดลงมาเป็นสายในร้านอาหารญี่ปุ่นกลางเมืองเชียงใหม่ คืนเดียวกันนั้นเอง เราเริ่มอ่าน'การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก' ตั้งแต่ราวเที่ยงคืนไปจบเอาตอนตีสี่ครึ่ง และนอนไม่หลับไปจนรุ่งสาง

ยอมรับว่าชีวิตช่วงหลังราว1-2ปีที่ผ่านมาอ่านนิยายจนจบเล่มน้อยมาก เล่มไหนอ่านเกินครึ่งเล่มแล้วหยุดนี่ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ความรู้สึกของการยิงยาวม้วนเดียวจบแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานจริงๆ ความรู้สึกที่ว่าใจหนึ่งอยากจะเก็บไว้อ่านต่อสักเดือน ค่อยๆละเลียด ละเมียดละไมไปด้วยกัน ไม่อยากให้จบ อยากให้จบช้าที่สุด กับอีกใจที่ร้องว่าเร็วๆ เร่งอ่านให้มันเสร็จๆไปจะได้จบสักที 2อารมณ์นี้มันปะทะกันตอนอ่าน 'การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก'

ผลที่ได้คือม้วนเดียวจบ ขมขื่น ปร่า กลืนน้ำลายยังฝืดคอ รู้สึกป่วย เป็นไข้ อยากร้องไห้แต่น้ำตาไม่ไหล อึดอัดขัดข้อง มีคำถาม ต้องการคำตอบ คับแค้นใจ หาทางออกไม่เจอ สับสน เหมือนเดินหลงทางในคืนฝนตก (เมื่อคืนที่อ่านฝนก็ตกจริงๆ) 

สำหรับเรา มูราคามิอาจจะเหมือนประเทศอินเดีย เห็นเค้าว่ากันว่าไม่รักก็เกลียด แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือเค้ามีพรสวรรค์ ที่จริงใครๆก็เขียนนิยายได้ แต่งเรื่องสั้น รังสรรค์บทความ แต่จะมีสักกี่คนที่เขียนออกมาแล้วมีพลังจนทำให้คนเสพหายใจไม่ออก จนทำให้เรานอนตาค้างข้ามคืนต้นฤดูฝนในเดือนมิถุนายน 






ชีวิตฉันขาดเธอไม่ได้ แนน สาธิดา

ชอบเสียงนักร้องคนนี้มากกก เสียงหวานมาก เพราะมาก ฟังแล้วซึ้งมากกกก
ที่สำคัญ ประกอบละครเรื่องที่ชอบ เลือดมังกร ตอนเสือ อิอิ




สุขใดจะเสมอ เท่าฉันมีเธอ เป็นคู่ดวงใจ
เคลียคลอ อยู่ทุกวันไป เหมือนทิวาคู่ราตรี
ดั่งแผ่นน้ำ คู่ฟ้า ไปตลอดปี
รักมั่นภักดี เหมือนปลารักท้องนทีธาร

หากชีวิตของฉัน ถ้าแม้นขาดเธอ คงหมดจิตใจ
คงครวญพร่ำหวนอาลัย เหมือนคนที่ไร้วิญญาณ
เธอได้ฟัง ฟังฉันรำพันกล่าวขาน
จงได้สงสาร เห็นใจในรักที่ภักดี

สุขใดจะเสมอเท่า ฉันมีเธอเป็น คู่ดวงใจ
เคลียคลอ อยู่ทุกวันไป เหมือนทิวาคู่ราตรี
ดั่ง แผ่นน้ำ คู่ฟ้า ไปตลอดปี
รักเธอ เท่าชีวี ดั่งปลารักน้ำ นิรันดร   

ยิ่งรัก ยิ่งห่าง



เหตุผลเป็นร้อยเป็นพันที่เจอ
ทำให้เธอและฉันดูเหมือนยิ่งรักยิ่งห่าง
เหตุใดความรักที่พร้อมทุกอย่าง
บางสิ่งกลับดูขาดหาย สุดท้ายก็หาไม่เจอ

เป็นเพราะเราต่างกัน
บนสวรรค์บันดาลให้ฉันและเธอต้องจาก
อยากให้เธอรู้เอาไว้อย่าง

ฉันจะมีแต่เธอในใจเสมอ
ความทรงจำดีดีจะคงเหมือนเดิม
อย่างน้อยได้รู้ว่ารักเธอมากแค่ไหน
ฉันไม่เคยเลยไม่เคยเสียใจที่ได้รักเธอ

คำว่ารักเพียงพอหรือเปล่า
หรือต้องมากกว่านี้หรือฉันมีไม่พอ
เป็นเพราะเราต่างกัน
บนสวรรค์บันดาลให้ฉันและเธอต้องจาก
อยากให้เธอรู้เอาไว้อย่าง

ฉันจะมีแต่เธอในใจเสมอ
ความทรงจำดีดีจะคงเหมือนเดิม
อย่างน้อยได้รู้ว่ารักเธอมากแค่ไหน
ฉันไม่เคยเลยไม่เคยเสียใจที่ได้รักเธอ

ฉันจะมีแต่เธอในใจเสมอ
ความทรงจำดีดีจะคงเหมือนเดิม
อย่างน้อยได้รู้ว่ารักเธอมากแค่ไหน
ฉันไม่เคยเลยไม่เคยเสียใจ
ที่ฉันจะมีแต่เธอในใจเสมอ
ความทรงจำดีดีจะคงเหมือนเดิม
อย่างน้อยได้รู้ว่ารักเธอมากแค่ไหน
ฉันไม่เคยเลยไม่เคยเสียใจที่ได้รักเธอ

Hotto Bun หลัง มช

โพสนี้มาเขียนรีวิวร้านของกินย้อนหลัง จริงๆกลับเชียงใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว แต่พอกลับมาก็ยุ่งมากจนไม่ได้มาเขียนสักที
กลับบ้านครั้งนี้ไปลองร้านใหม่ที่เพิ่งเปิดมาค่ะ ชื่อร้านฮอตโตะบัน ตั้งอยู่หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทางเข้าคือซอยร้านกาแฟโสด เข้าไปประมาณ 500 เมตร ร้านอยู่ทางขวามือค่ะ หาไม่ยากเลย เป็นร้านเล็กๆไม่น่าจะถึง 10 โต๊ะ เน้นกินแล้วไป ไม่แนะนำให้นั่งแช่นะคะ เพราะร้านเล็กและมีคนเข้าตลอดจริงๆ ข้อเสียคือเรื่องที่จอดรถค่ะ ถ้าเอารถยนต์ไปนี่ค่อนข้างหาที่จอดลำบากเลย เพราะทางร้านมีแต่ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ หากจะจอดก็น่าจะต้องได้จอดไกลแล้วเดินเอา ซึ่งในสภาพอากาศแบบนี้มันเป็นอะไรที่ทรมานมากจริงๆ 
ส่วนเมนูของร้านนี่ก็เล็กตามขนาดร้านค่ะ เป็นเมนูหน้าเดียว มีเบอร์เกอร์หมู ไก่ แล้วก็ปลา สามารถสั่งแยกเป็นชิ้นเดี่ยวๆได้ หรือถ้าสั่งเป็นเซตจะมีเฟรนช์ฟรายส์และชาเย็นๆชื่นใจมาให้ด้วย จุดเด่นของเค้าอยู่ที่ขนมปังค่ะ ขนมปังนุ่มอร่อย แถมเลือกได้ด้วยนะคะว่าจะเอาขนมปังขาวธรรมดาหรือขนมปังโฮลวีต ถ้าเลือกโฮลวีตก็เพิ่มอีก 10 บาทค่ะ สนนราคาแบบเป็นเซตอยู่ที่ราวๆ 150 กว่าบาท วันที่เราไปเราจัดบันปลาแบบเป็นเซตมา 1 เซต บอกเลยค่ะว่าไม่อิ่ม กินแบบพอกรุบกริบ หลังจากนั้นเราเลยไปต่อบะหมี่หมูแดง 5555
ถ้าใครไปเชียงใหม่ลองไปชิมกันดูนะคะ โดยรวมถือว่ารสชาติโอเคเลยค่ะ :)








ผิดสัญญา

เป็นเพลงที่เจ็บปวดมากเลย





แล้วก็ต้องเลิกกัน 
จบที่เคยฝันไว้
เมื่อความจริงฉันมีแค่เพียงหัวใจ
หลอกตัวเองว่าคงดีพอ 
ให้เธอฝากชีวิตไว้
แต่ที่สุดแล้วมันช่างดูเลือนราง

ฝันไปได้ยืดยาว แต่ไม่เคยถึงไหน
บอกตรงตรง ขอโทษจริงจริง เสียใจ
กับถ้อยคำสัญญาดีดี จะดูแลเธอจนตาย
ยิ่งตอกยิ่งย้ำ ให้ฉันควรไปจากเธอ

แค่คำว่ารักที่พูดอยู่ได้มันคงไม่พอ
และฉันก็ไม่อาจรอ ให้เราเดินไปถึงวัน
ที่เกินจะเปลี่ยน จนช้ำไปมากกว่านี้
ที่ฉันมีให้เธอได้แค่คำว่าลา 
อย่าทิ้งชีวิตเอาไว้บนทางที่ฝืนเต็มที 
ทำให้ไม่ได้ ขอโทษที่ผิดสัญญา

รักได้แค่ลมปาก อย่างลมลมแล้งแล้ง
ดีแต่ทำให้เธอต้องเสียเวลา 
มีแต่ใจเพ้อไปวันวัน จะดีอะไรนักหนา
หากยิ่งอยู่รักเธอ ยิ่งเห็นแก่ตัว

โปรดอภัยให้คนที่ผิด สัญญา
 
Multiverse Blog Design by Ipietoon