รีวิวสอบ IELTS Academic Module กับ British Council

วันนี้ไปสอบ IELTS ที่โรงแรมแลนด์มาร์กมาค่ะ เดินทางสะดวกมาก ขึ้น bts ไปลงสถานีนานา ทางออก 2 เดินลงบันไดมานิดนึงก็ถึงเลยค่ะ การสอบจัดโดย British Council Bangkok ค่าสอบ 6,460 บาทถ้วนค่ะ

การสอบ IELTS แบ่งออกเป็น 3 ประเภทนะคะ

1. Academic Module ใช้เพื่อการศึกษาต่อ (เราไปสอบตัวนี้ค่ะ)
2. General Module ใช้เพื่อการทำงานหรืออยู่อาศัยในต่างประเทศ
3. UKVI อันนี้ไม่ทราบค่ะ ไม่ได้ศึกษามาเลย ฮ่าาาา

ผู้เข้าสอบวันนี้เฉพาะแบบ Academic Module กับ General Module มีทั้งหมด 360 คนค่ะ สอบที่ชั้น 7 ไม่รวมผู้สอบประเภท UKVI ที่สอบอยู่ชั้น 9 นะคะ

การสอบจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าและช่วงบ่าย ช่วงเช้าจะเป็นพาร์ท listening, reading, writing ตามลำดับ พาร์ทการฟังจะให้เวลา 10 นาทีสุดท้ายลอกคำตอบจากสมุดโจทย์มาใส่ในกระดาษคพตอบค่ะ ส่วนพาร์ทอ่านและพาร์ทเขียนจะให้เวลาเท่ากันคือ 1 ชั่วโมง เราต้องบริหารจัดการเวลาเอง แต่กรรมการจะเก็บข้อสอบและคำตอบทีละพาร์ทนะคะ เช่น หมดเวลาทำพาร์ทการอ่าน 1 ชั่วโมงก็เก็บไป แล้วแจกพาร์ทการเขียนต่อ

รีวิวแยกพาร์ทนะคะ

1. การฟัง : เร็วมากกกก ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถามว่ายากมั้ย ตอบได้เลยว่าก็ไม่ได้ยากมาก ระดับเดียวกับ TOEIC ค่ะ แล้วก็เหมือนกันในเรื่องของความเร็วด้วย เทปจะเล่นให้ฟังแค่ 1 ครั้งนะคะ ผู้สอบแต่ละคนจะมีหูฟังของใครของมันค่ะ พาร์ทนี้ถ้าสติหลุดนิดนึงนี่จบเลยค่ะ ต้องสติสตรองมากจริงๆ
2. การอ่าน : สำหรับเราอันนี้กินหมู ส่วนตัวคิดว่าง่ายเลยทีเดียว คือไม่ได้ถามอะไรซับซ้อนมากมาย บทความที่ให้มาก็ประมาณ 1 - 2 หน้า ที่ฝึกทำมาหินกว่าข้อสอบจริงค่ะ แต่!!! เช่นเดียวกันค่ะ สิ่งที่ต้องระวังคือเวลา บทความมีด้วยกันทั้งหมด 3 บทความ ให้เวลา 1 ชั่วโมง ควรใช้เวลาแค่ 20 นาทีต่อบทความเท่านั้นค่ะ ตรงนี้กรรมการคุมสอบจะประกาศเตือนว่าผ่านไปแล้ว 20 นาที อย่างกับรายการเชฟกระทะเหล็ก ฮ่าๆๆๆๆ
3. การเขียน : อันนี้โหดร้ายมาก ให้เขียนทั้งหมด 2 บทความ ส่วนแรกให้เขียนอธิบายและเปรียบเทียบชาร์ทต่างๆ ที่เราเจอเป็น pie chart 3 อันค่ะ ซึ่งส่วนตัวไม่ถนัดอธิบาย pie chart เลยยยย ถ้าเจอ bar chart จะดีกว่ามาก T-T ส่วนที่สองเป็นเขียนแสดงความเห็นค่ะ เราเจอโจทย์ถามว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรหากรัฐบาลจะช่วยเหลือเฉพาะประชาชนในประเทศของตน ทั้งสองส่วนนี้ให้เวลารวมกัน 1 ชั่วโมงค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าเราต้องแบ่งใช้เอาเอง โจทย์แนะนำว่าส่วนแรกให้ใช้ 20 นาที ส่วน 40 นาทีหลังให้เป็นของส่วนที่สองค่ะ เพราะส่วนที่สอง (อย่างน้อย 150 คำ) คะแนนมากกว่าส่วนแรก (250 คำ) ไม่ต้องถามนะคะว่าใีเวลาระดมไอเดียหรือร่าง outline อะไรรึเปล่า ขอบอกว่าด้นสดตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ เวลามันบีบคั้นเหลือเกิน !

สามพาร์ทข้างต้นจะสอบช่วงเช้านะคะ เริ่มสอบ 9 โมงถึง 12.00 อันนี้ทุกคนสอบพร้อมกันหมดค่ะ สอบเสร็จก็แยกย้ายกันไป แต่ต้องกลับมาตามเวลาของแต่ละคนเพื่อการสอบ speaking ในช่วงบ่ายค่ะ อันนี้เวลาใครเวลามัน ผู้เข้าสอบบางส่วนต้องมาสอบ speaking ในวันถัดไปด้วยนะคะ น่าจะเพราะเวลาไม่พอให้สอบเสร็จในวันเดียว

4. การพูด (ช่วงบ่าย) : อันนี้ก็เข้าไปพูดกับอาจารย์ฝรั่งค่ะ เริ่มแรกเค้าจะถามเราเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป เช่น ชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ชอบทำอะไร ประมาณนี้ หลังจากนั้นก็จะเลือกโจทย์เฉพาะมาให้เรา วันนี้เราเจอคำถามว่า เคยตัดสินใจเรื่องอะไรที่ยากที่สุด แล้วผลเป็นอย่างไร แล้วทำอย่างไร ประมาณนี้ เราก็พูดๆในส่วนนี้ไป สุดท้ายจะเป็นการ discuss กันของเรากับอาจารย์ คืออาจารย์จะถามคำถามเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับโจทย์ที่เราได้ ส่วนนี้เราชิลล์สุดค่ะ คิดว่าทำส่วนนี้ได้ดีที่สุดเลยด้วย ต้องขอบคุณที่สมัยเรียนเจอฝรั่งมาเยอะเลยไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือกังวลอะไรเลย ก็คุยไปเรื่อยๆ คุยจบก็ขอบคุณเค้าแล้วบอกว่า have a nice day แถมท้าย อาจารย์ที่มาวันนี้มีทั้งหมด 9 คนนะคะ เราได้ห้อง 9 เลย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าวันอื่นๆจะมีกี่คน อาจารย์คนที่เราเจอก็ดูใจดีนะคะ คุยกับแบบเรื่อยๆ ไม่ได้กดดัน ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่พาร์ทนี้เลยค่ะ อ้อ เหมือนอาจารย์จะพยายามพูดชัดๆให้เราฟังง่ายด้วยนะคะ เพราะรู้สึกว่าสำเนียง british ที่เคยเจอมามันฟังยากกว่านี้ ฮ่าๆๆๆๆ

สรุปนะคะ เรื่องการบริหารเวลาสำคัญมากจริงๆ ความผิดพลาดส่วนใหญ่ที่เจอมาวันนี้เป็นผลมาจาก time limit ล้วนๆเลยค่ะ ตอนนี้ก็เหลือแต่รอผล เจ้าหน้าที่บอกว่าผลจะออกอีก 2 สัปดาห์ค่ะ ภาวนาให้ได้ overall band ที่ 7.0 ทุกพาร์ทอย่าต่ำกว่า 6 เลยค่ะ สาธุ !

1 comments:

  1. It is really a helpful blog to find some different source to add my knowledge. I came into aware of new professional blog and I am impressed with suggestions of author.เรียน ged ที่ไหนดี

    ReplyDelete

 
Multiverse Blog Design by Ipietoon