เครดิตตามภาพนะคะ ไม่ได้ถ่ายเองค่ะ ไม่มีฝีมือ 5555
เมื่อวันเสาร์สิ้นเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปอัมพวามาอีกแล้วค่ะ
ภารกิจเที่ยวครั้งนี้ขอบอกว่าเป็นอะไรที่เร่งด่วนและเฉพาะกิจมาก เนื่องมาจากเมื่อคืนวันศุกร์ก่อนหน้าได้มีโอกาสนัดเจอเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยหลังจากไม่เจอกันมาร่วมปี ตอนแรกนัดกันว่าจะไปหาของอร่อยๆกินกันแถววังหลัง แต่กว่าจะเลิกงานวังหลังก็น่าจะปิดไปกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว แผนของเราเลยเปลี่ยนไปเป็นที่ท่ามหาราชแทน
เราสามสาวขึ้นเรือข้ามฟากที่เอเชียทีค สนนราคาอยู่ที่ 19 บาทตลอดสายไปสุดแถวท่าน้ำนนท์ แต่เราลงกันที่ท่ามหาราช นี่เป็นครั้งแรกของเราที่ได้มาท่ามหาราชจากที่เคยเห็นรูปจากเพื่อนๆที่ไปถ่ายกันหลายคน ในรูปดูเหมือนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเหล่าฮิปสเตอร์ไปหามุมถ่ายรูปฮิปๆชิคๆ แต่ความรู้สึกของเราที่ไปเห็นว่าเฉยๆมากค่ะ ส่วนชั้นบนที่ติดแม่น้ำจะเป็นโซนให้นั่งเล่นชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา อาจจะเพราะเราไปผิดเวลาก็ได้นะคะเลยรู้สึกเฉยๆ คือตอนเราไปถึงนี่ดึกแบบมืดแล้ว ถ้าได้ไปตอนเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตกอาจจะรู้สึกอีกแบบก็ได้
ในบรรดาร้านต่างๆที่ท่ามหาราชจะเป็นร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงจะบอกว่าใหญ่ก็มีไม่กี่ร้านอยู่ดีในความรู้สึกเรา ร้านที่ว่ามีทั้งที่เป็นแบรนด์ใหญ่อย่างสตาร์บั๊คไปจนถึงร้านเล็กๆที่ไม่มีสาขา
เราสามคนไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆตรงทางเข้าโซนพระเครื่อง สนนราคาไม่แพงมาก ราคาส่วนใหญ่อยู่ที่ 89 บาทต่อชุด รสชาติอร่อยใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ หลังจากรับของตาวเสร็จเราก็ไปจัดของหวานกันต่อ ตามสโลแกนประจำกลุ่มเราที่ว่า "กินคาวไม่กินหวาน สันดานไพร่" :p
ร้านของหวานที่เราไปก็เป็นร้านที่คิดว่าทุกคนน่าจะรู้จักกันดีค่ะ After You นั่นเอง เราสั่งกันมา 2 อย่างคือบิงซูกับฮันนี่โทสต์ ในส่วนของฮันนี่โทสต์ไม่ขอพูดถึงมากเพราะของร้านนี้เค้าดังอยู่แล้ว แต่เมนูยอดฮิตมาใหม่อย่างบิงซูนี่ขอเม้าท์หน่อย คือมันอร่อยจริงนะคะ แต่ราคาแรงมากเมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้ 285 บาทต่อถ้วยญี่ปุ่นเล็กๆ สำหรับเราคือรู้สึกว่ามันแพงเกินไปถึงรสชาติจะละมุนลิ้นเข้าท่าก็เถอะ แต่ (แต่อีกละ) ถ้าเทียบกับบิงซูร้าน Wake Up ที่เชียงใหม่ที่เคยพูดถึง เราว่า Wake Up อร่อยกว่านะ ถูกกว่าเป็นร้อยด้วย
เพราะนัดทานข้าวคืนวันศุกร์นี่แหละค่ะที่นำมาซึ่งทริปวันเสาร์ที่อัมพวา เรา 3 คนนัดเจอกันช่วงเที่ยงเพื่อออกเดินทาง one day trip ครั้งนี้ วางแผนไว้ดิบดีมากว่าจะพาเพื่อนไปไหว้พระที่วัดบางกุ้ง ต่อด้วยชมอุทยานร.2 ปิดท้ายแบบประทับใจด้วยการเดินเล่นหาของกินที่ตลาดอัมพวาพร้อมล่องเรือชมหิ่งห้อย
แต่ทีนี้เจ้าค่ะ ท้องฟ้าอากาศมืดครึ้มมาตั้งแต่เช้าชนิดที่ว่าไม่เห็นแสงอาทิตย์ลอดลงมา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เป็นเดือนคือร้อนมาก ร้อนนรกแตก ไม่เคยฟ้าครึ้มสักวันแต่ดันมาครึ้มเอาวันนี้ เป็นอันรู้กันค่ะว่าพายุฤดูร้อนมาแล้ว และจำเพาะเจาะจงว่าต้องมาวันนี้ด้วย -_-
ย้อนไปครั้งสุดท้ายที่ได้เที่ยวกับเพื่อนกลุ่มนี้คือไปแถวน้ำตกที่แม่ริม เชียงใหม่ วันนั้นก็ฝนตกเหมือนกัน หนักด้วย มาครั้งนี้เลยคิดในใจว่าจะเที่ยวด้วยกันทีไรต้องเจอฝนตลอดเลยใช่มั้ยเนี่ยยยย
เราขับไปทางเส้นพระราม 2 อาศัยตาม google maps ไป ขอบอกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เปิดกูเกิ้ลเพราะพี่สาวเราก็ไปอัมพวาเหมือนกัน (แยกกันไป) ซึ่งนางไม่ได้ตั้งกูเกิ้ลไป นางขับไปเองโดยใช้ทางหลัก ใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าจะถึงอัมพวาจย้าาาา ส่วนเราเหรอคะ กูเกิ้ลบอกให้เลี้ยวก็เลี้ยว บอกให้ไปตรงก็ไปตรง ผลคือไม่ต้องเผชิญรถติดมากมายและใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง อิอิ
ขับไปได้สักแถวพอร์ตโตชิโน ฟ้าก็อุ้มเมฆไม่อยู่แล้วค่ะ ฝนเทลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว อารมณ์ตอนนั้นคือกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง 5555
ฝนตกหนักไปตลอดทางจนเราถึงวัดบางกุ้งตามแผนว่าจะเป็นจุดหมายแรกที่ไป อยากไปไหว้พระก่อนเป็นการเปิดทริปนั่นเอง แต่ช้าก่อน นอกจากฝนตกจะทำให้รถติดจนใช้เวลาเดินทางมากกว่าปกติแล้ว พอไปถึงที่หมายฝนยังไม่เลิกตกค่าาา เราสามคนต้องนั่งรอในรถให้ฝนซาอีกพักใหญ่เพราะลงไปไม่ได้จริงๆ เปียกแน่
กว่าจะไหว้ะระเรียบร้อยครบถ้วนกระบวนความก็ปาเข้าไปสี่โมงครึ่ง เรารีบไปต่อกันที่อุทยานร.2 ถึงประมาณ 5 โมงเย็น ไม่น่าเชื่อนะคะ เจอการจราจรหนาแน่นที่อัมพวา ไปมาหลายครั้งเพิ่งเคยเจอครั้งนี้เป็นครั้งแรก คงจริงอย่างที่มีคนพูดไว้ ที่ใดฝนตกที่นั่นรถติด เหมือนที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ 5555
ผลที่ได้คืออุทยานปิดแล้วค่ะ จากข้อมูลที่หามาบอกว่าปิด 5 โมงครึ่ง แต่ตอนเราไปถึง 5 โมงก็ปิดประตูทางเข้าแล้วค่ะ เหลือประตูให้ออกอย่างเดียว เป็นอันว่าแผนล่ม เราเลยมุ่งตรงไปตลาดเลย บอกก่อนนะคะว่าระหว่างนี้ฝนก็ยังคงตกอยู่เรื่อยๆ แต่เป็นแบบปรอยๆซึ่งเราบ่ยั่น ไปเดินตลาดทั้งๆที่ฝนปรอยนั่นแหละค่ะ ถือว่าที่ตลาดก็คนเยอะในระดับนึงนะคะ ไม่ถึงกับหนาแน่น ของส่วนใหญ่ที่ขายจะเป็นของกิน ซึ่งเราก็ลุยค่ะ เปิดจ็อบที่ก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 20 บาท แต่ขอบอกว่าผิดหวังมากกก เพราะมันไม่อร่อยเลย T-T เราสามคนเลยต้องหาอย่างอื่นล้างปากต่อไป 5555
สิ่งที่แนะนำให้ซื้อคือขนมถ้วยคุณยายค่ะ แกขายขนมถ้วยหน้ากะทิกับขนมใส่ไส้ แกจะนั่งอยู่ตรงหัวสะพานลงแม่น้ำช่วงกลางๆตลาด มีอยู่เจ้าเดียวค่ะ ถ้าเห็นเป็นคุณยายขายขนมถ้วยก็ใช่เลย ราคาขนมถ้วยอยู่ที่กล่องละ 20 บาท ได้เยอะอีกต่างหาก อันนี้แนะนำอย่างแรง อร่อยมากกกก (ก.ไก่ล้านตัว) เราซื้อมา 2 กล่องซะเลย กินที่ตลาด 1 กลับบ้าน 1 อิอิ
อีกอย่างที่ต้องไปกินคือพวกอาหารทะเลย่างค่ะ เราซัดปลาหมึกย่างกับเพื่อนซะเปรมเลย พวกของย่างนี่วัดกันที่น้ำจิ้มค่ะ เราจัดไปหลายร้านอยู่นะ ใช้ได้เกือบทุกร้านเลย
พอจบทริปกินเติมพลังเราก็ปิดท้ายวันนี้ด้วยการล่องเรือชมหิ่งห้อยท่ามกลางสายฝนปรอยๆค่ะ ราคาอยู่ที่คนละ 60 บาท ก่อนลงเรือเราถามคนแถวนั้นว่าฝนปรอยแบบนี้จะมีหิ้งห้อยมั้ย เค้าบอกว่าฝนตกแบบนี้หิ่งห้อยจะออกมาบินเล่นหลบฝนใต้ใบไม้ค่ะ เราสามคนก็เชื่อตามนั้นเลยตัดสินใจซื้อทัวร์ ล่องเรือไปตามแม่น้ำแม่กลองพักใหญ่ทีเดียวค่ะกว่าจะเจอหิ่งห้อย แต่มีจริงอย่างที่เค้าบอกนะคะ ในระดับที่โอเคเลยด้วย ระหว่างล่องเรือก็อากาศดีมาก เย็นๆเพราะฝนตก เย็นจนหนาวเลยน่ะค่ะ
สรุปจบทริปวันนั้นได้ไม่ครบแผน ขาดอุทยาน ร.2 ไป แต่ถือว่าอิ่มใจที่ได้เจอเพื่อนค่ะ เพราะยิ่งโตขึ้นยิ่งหาเวลาเจอกันได้ยากมากจริงๆ ได้มาเจอกันแบบนี้จึงมีความสุขมากจริงๆค่ะ :)