The Prophet (On Marriage), ปรัชญาชีวิต (การแต่งงาน)

หายไป 2 วันเพราะเน็ตคอนโดเน่า วันนี้ขอกลับมาต่อเนื้อหาจากปรัชญาชีวิต ของคาลิล ยิบราน ว่าด้วยการแต่งงาน บทนี้เป็นแรงบันดาลใจหรือที่มาของเพลง ที่ว่าง ขับร้องโดยวง พอส ที่ยังโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน 


ก่อนเคยคิดว่ารักต้องอยู่ด้วยกันตลอด
เติบโตจึงได้รู้ความจริง
หากเคียงชิดใกล้ แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน
ประโยชน์ที่ใด หากรักทำร้ายตัวเอง
หากเดินแนบกาย มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บ ด้วยกัน
ห่างเพียงนิดเดียว ให้รักเป็นสายลมผ่านระหว่างเรา
แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย เพื่อให้เธอได้ตามหาฝัน ของเธอ







เนื้อความในปรัชญาชีวิตว่าด้วยการแต่งงานกล่าวว่า


เธอเกิดมาด้วยกัน 
และเธอก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไป 
เธอจะอยู่ด้วยกันแม้เมื่อปีกขาวของความตาย
ปัดกวาดวันคืนของเธอให้กระจัดกระจายไป 
ถูกแล้วเธอจะอยู่ด้วยกัน
แม้ในความทรงจำอันสงัดของพระเป็นเจ้า 
แต่ขอให้มีช่องว่างในการอยู่ด้วยกันของเธอ 
และขอให้กระแสลมแห่งสวรรค์โบกโบยไปมาระหว่างเธอ 

จงรักกันและกัน แต่อย่าสร้างพันธะแห่งรัก 
และขอให้ความรักนั้น เป็นเสมือนห้วงสมุทร
อันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างฝั่งแห่งวิญญาณของเธอทั้งสอง 
จงเติมถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน 
จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากัดกินจากก้อนเดียวกัน 
จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง
 
แต่ขอให้แต่ละคนได้มีโอกาสอยู่โดดเดี่ยว 
ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว 
แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน
 
จงมอบดวงใจ แต่มิใช่ต่ออีกฝ่ายหนึ่ง 
เพราะหัตถ์แห่งชีวิตอมตะเท่านั้นที่จะรับดวงใจของเธอไว้ได้ 
และจงยืนอยู่ด้วยกัน แต่อย่าใกล้กันนัก 
เพราะว่าเสาของวิหารนั้นก็ยืนอยู่ห่างกัน 
และต้นโพธิ์ ต้นไทรก็ไม่อาจเติบโตใต้ร่มเงาของกันได้

บทนี้สั้นๆ อ่านเข้าใจง่าย ทว่าความหมายลึกซึ้งมาก ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคู่รักที่แต่งงานกันเท่านั้น แต่บทการแต่งงานนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว เพื่อน พี่น้อง หรือคู่รัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่รัก เป็นธรรมดาว่าเมื่อมีความรัก เราย่อมอยากอยู่ใกล้คนที่เรารัก บางคนเป็นหนักถึงขั้นที่ว่าไม่อยากอยู่ห่างกันแม้แต่วินาทีเดียว อยากรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร จนอาจจะลืมไปว่าการกระทำบางอย่างอาจทำให้อีกฝ่ายอึดอัดใจ ดังนั้น สิ่งที่ทุกๆความสัมพันธ์ควรจะมีคือ การเคารพในสิทธิส่วนตัวของกันและกัน การเว้นช่องว่างให้กัน และการไม่เบียดเบียนกัน เมื่อไม่ใกล้กันจนเกินไปนักก็จะได้ไม่มีความอึดอัดใจ ให้อิสระต่อกัน แต่ในขณะเดียวกันก็แบ่งปันและเติมเต็มกันและกัน เราคิดเสมอว่าการใช้ชีวิตเป็นศิลปะ และศิลปะที่รังสรรค์ให้งดงามได้ยากที่สุดคือศิลปะแห่งความสัมพันธ์ เพราะการครองใจคนนั้นไม่ยากเท่ากับการรักษาคนเอาไว้ในชีวิตให้นานๆ :) 

0 comments:

Post a Comment

 
Multiverse Blog Design by Ipietoon