ความปราโมทย์ของเธอนั้น
คือความเศร้าโศกถอดหน้ากากออก
และจากบ่อเดียวกัน
ที่เสียงหัวเราะของเธอผุดขึ้นมานั้น
บ่อยครั้งมันเปี่ยมไปด้วยน้ำตาของเธอ
มันจะเป็นอย่างอื่นใดได้อีกเล่า
ความเศร้าโศกยิ่งบาดลึกลงไปในผิวเนื้อของเธอได้เท่าใด
เธอก็จะสามารถเก็บเอาความปราโมทย์ได้มากขึ้นเพียงนั้น
ก็ถ้วยที่เธอรินใส่ถ้วยองุ่นนั้น
มันจะต้องถูกเผาในเตาอบของช่างปั้นก่อนมิใช่หรือ
และขลุ่ยที่เป่ากล่อมดวงใจเธอนั้น
มิใช่ไม้ที่ถูกบากเจาะด้วยมีดก่อนหรอกหรือ
ขณะเมื่อเธอปรีดาปราโมทย์
จงมองลึกลงไปในดวงใจ
และเธอก็จะพบว่า
สิ่งซึ่งได้เคยยังความเศร้าโศกแก่เธอนั้น
กำลังให้ความปราโมทย์แก่เธอ
ขณะเมื่อเธอเศร้าโศก
จงมองลงไปอีกและก็จะพบว่า
แท้จริงนั้น
เธอกำลังสะอื้นไห้
ถึงสิ่งที่เคยก่อความยินดีมาแล้ว
เธอบางคนกล่าวว่า
ความปราโมทย์นั้นยิ่งใหญ่กว่าความเศร้าโศก
และอีกพวกแย้งว่า
ไม่ใช่ ความเศร้าโศกต่างหากที่ยิ่งใหญ่กว่า
แต่เราขอบอกแก่เธอว่า
มันมิอาจแยกจากกันได้ มันมาด้วยกัน
และขณะเมื่อสิ่งหนึ่งนั่งอยู่กับเธอที่โต๊ะ
พึงระลึกไว้ว่า
อีกสิ่งหนึ่งหลับรออยู่บนเตียง
แท้จริงนั้น
เธอแขวนไกวอยู่ดุจตาชั่ง
ระหว่างความเศร้าโศกและความปราโมทย์ของเธอ
เธอจะยืนนิ่งอยู่และไม่เอนเอียง
ก็แต่ในขณะเมื่อเธอว่างเปล่าเท่านั้น
ขณะเมื่อผู้รักษาสมบัติยกเธอขึ้น
เพื่อชั่งเงินและทองของเขา
ก็ไม่จำเป็นที่ความเศร้าโศก
หรือความชื่นชมของเธอ
จะต้องเอียงขึ้นลงด้วย
ท่อนที่ชอบมากๆคือท่อนที่ทำตัวหนาไว้ เค้าบอกว่าเวลาที่รู้สึกเศร้า ให้มองลึกลงไป แล้วจะพบว่า สิ่งที่ทำให้เศร้านั้น ครั้งหนึ่งเป็นสิ่งที่เคยทำให้เรามีความสุขมาก่อน คือมันใช่ คือมันโดน นึกถึงท่อนนึงของเพลง Lost Stars เพลงประกอบภาพยนตร์ Begin Again ที่ว่า 'Don't you dare let our best memories bring you sorrow' กล้าให้ความทรงจำที่ดีที่สุดของเรากลายเป็นความเศร้ารึเปล่า มันช่างตรงกับปรัชญาชีวิตบทนี้เหลือเกำิน ความทรงจำที่ดีที่สุด อาจจะกลายเป็นความเศร้าโศกก็ได้
0 comments:
Post a Comment